เมื่อเร็ว ๆ นี้ Bloomberg รายงานว่า Vodafone Telecom ซึ่งเป็นผู้ให้บริการรายใหญ่ที่สุดในยุโรปกล่าวว่าพบซอฟเเวร์ในอุปกรณ์ของหัวเหว่ยที่สามารถเข้าถึงเครือข่ายของ Vodafone ได้โดยไม่ได้รับอนุญาต
เเละไม่นานหัวเหว่ยก็ได้มีการเเจ้งกับสื่อถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น หัวเหว่ยได้กล่าวว่า : " การนำเสนอของ Bloomberg เป็นการทำให้คนเข้าใจผิด เเท้จริงเเล้วฟังชั่นของซอฟต์เเวร์ดังกล่าวเป็นเพียงการวินิจฉัยเเละบำรุงรักษาอุปกรณ์ทั่วไปของหัวเหว่ยเเละไม่ได้มีการเเอบติดตั้ง Backdoor หรือซอฟเเวร์ที่ไม่ได้รับอนุญาตลงในอุปกรณ์ของหัวเหว่ยดังที่ถูก Bloomberg รายงาน "
หัวเหว่ยยังกล่าวอีกว่านี่เป็นช่องโหว่ของซอฟต์เเวร์มากกว่าที่จะเป็น Backdoor : " นี่เป็นข้อผิดพลาดทางเทคนิคของอุปกรณ์ของเรา หลังจากได้รับการระบุและแก้ไขคำนิยามที่รู้จักของ 'Backdoor' นั้นเป็นช่องโหว่ที่สร้างขึ้นโดยเจตนาซึ่งสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้ ช่องโหว่เหล่านี้ไม่ได้ถูกใช้เป็น Backdoor อย่างที่ถูกรายงาน "
โฆษกของหัวเว่ยยังกล่าวอีกว่า : “ ช่องโหว่ของซอฟต์แวร์เป็นเรื่องท้าทายสำหรับอุตสาหกรรมทั้งหมด เช่นเดียวกับผู้ให้บริการไอซีทีเเละเครือข่ายทุกคนเรามีกระบวนการที่ได้รับการพัฒนามาอย่างดี เมื่อพบช่องโหว่เราจะทำงานอย่างใกล้ชิดกับพันธมิตรเพื่อดำเนินการแก้ไขที่เหมาะสมกับช่องโหว่ที่เกิดปัญหาเหล่านั้น "
หัวเว่ยกล่าวว่าปัญหาที่เกิดขึ้นนี้ถูกค้นพบโดย Vodafone เเละได้รับการแก้ไขเเล้วในปี 2011 และ 2012 และ Vodafone ก็ได้ยืนยันในเรื่องนี้
อย่างไรก็ตามบางคนอ้างว่านี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ Bloomberg พยายาม 'ทำให้เข้าใจผิด' โลกเทคโนโลยี ในบทความที่ตีพิมพ์เมื่อวันที่ 4 ตุลาคม 2018 ได้มีการกล่าวถึงสิ่งที่เรียกว่า 'แฮกเกอร์จีน' ได้ทำการฝังไมโครชิพในเซิร์ฟเวอร์ บริษัท ขนาดใหญ่ของสหรัฐอเมริกา ตอนนี้เมื่อหลายประเทศในยุโรปได้พยายามที่จะบรรเทาตำแหน่งของตนมีเหตุผลทุกประการที่คิดว่าบลูมเบิร์กจะคาดการณ์ปัญหาทางประวัติศาสตร์บางอย่างในช่วงเวลาที่มีความเสี่ยง
-------------------------------
ข้อมูลอ้างอิงเเละเเหล่งที่มา / Source Reference
Credit : @GizChina , @ItHome.com
-------------------------------
Follow Us - ติดตามพวกเราได้ที่
( Facebook Fanpage : https://web.facebook.com/Mr.FocusTH )
( Mr.Focus Store - ขายมือถือเเละอุปกรณ์เสริม : Soon เร็วๆนี้ครับ )